น้ำหอมจากผู้เชี่ยวชาญ
บทความการสัมภาษณ์
รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ มหาวิทยาลัยรังสิต (ผู้เชียวชาญด้านสมุนไพร)
อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์ แผนตะวันออก
รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ มหาวิทยาลัยรังสิต (ผู้เชียวชาญด้านสมุนไพร)
อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์ แผนตะวันออก
หัวข้อ ความเป็นมาในเรื่องของการใช้กลิ่นสมุนไพร
อโรม่าเธอราพี หรือ ความหอมของสมุนไพรมันเป็นศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน ถ้าจะนับเป็นปีก็เกิน 3000 ปีมาแล้ว
ในสมัย อียิปโบราณ ในอียิปเนี่ยมีการดองศพ ก็เริ่มใส่น้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อฆ่าเชื้อหรือดับกลิ่น
ดังนั้นมันก็คือ สุคนธบำบัด ฉะนั้นน้ำมันหอมระเหยมีประโยชน์หลายอย่างมันมีกลิ่นจริง ตัวมันเองก็มีสรรพคุณ สรรพคุณจากกลิ่น อันนี้คืออโรมาเทอราปี มันคือการใช้กลิ่นเพื่อบำบัด ตอนนี้มีใช้อยู่ประมาณ 150 อาการ โดยมีน้ำมันหอมระเหยที่ยอดนิยมใช้ประมาณ 70 ชนิด ก็คือ สุคนธบำบัดโดยตัวน้ำมันหอมระเหยนี้เองมันก็มีฤทธิ์หรือสรรพคุณในหลายอย่าง เช่น ฆ่าเชื้อ แต่ครั้งนี้จะมาพูดเรื่องกลิ่น โดยที่กลิ่นของมันจะออกฤทธิ์ เวลาเราสูดดมกลิ่นขึ้นไปในสมอง สมองส่วนที่รับรู้เรื่องกลิ่น ก็คือส่วนทาลามัสและส่วนไฮโปทาลามัส แล้วระบบตรงนี้มันจะควบคุม เรื่องอารมณ์ความรู้สึก ความจำด้วยมันจะออกฤทธิ์ที่สมองในส่วนสำคัญ นี่จึงเป็นตัวอย่างที่บางอย่าง สูดดมเข้าไปแล้วอารมณ์ดี ซึ่งน้ำมันหอมระเหยหรืออโรมาเทอราปีเนี่ยก็จะมีแบ่งเป็นกลุ่ม
อโรม่าเธอราพี หรือ ความหอมของสมุนไพรมันเป็นศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน ถ้าจะนับเป็นปีก็เกิน 3000 ปีมาแล้ว
ในสมัย อียิปโบราณ ในอียิปเนี่ยมีการดองศพ ก็เริ่มใส่น้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อฆ่าเชื้อหรือดับกลิ่น
ดังนั้นมันก็คือ สุคนธบำบัด ฉะนั้นน้ำมันหอมระเหยมีประโยชน์หลายอย่างมันมีกลิ่นจริง ตัวมันเองก็มีสรรพคุณ สรรพคุณจากกลิ่น อันนี้คืออโรมาเทอราปี มันคือการใช้กลิ่นเพื่อบำบัด ตอนนี้มีใช้อยู่ประมาณ 150 อาการ โดยมีน้ำมันหอมระเหยที่ยอดนิยมใช้ประมาณ 70 ชนิด ก็คือ สุคนธบำบัดโดยตัวน้ำมันหอมระเหยนี้เองมันก็มีฤทธิ์หรือสรรพคุณในหลายอย่าง เช่น ฆ่าเชื้อ แต่ครั้งนี้จะมาพูดเรื่องกลิ่น โดยที่กลิ่นของมันจะออกฤทธิ์ เวลาเราสูดดมกลิ่นขึ้นไปในสมอง สมองส่วนที่รับรู้เรื่องกลิ่น ก็คือส่วนทาลามัสและส่วนไฮโปทาลามัส แล้วระบบตรงนี้มันจะควบคุม เรื่องอารมณ์ความรู้สึก ความจำด้วยมันจะออกฤทธิ์ที่สมองในส่วนสำคัญ นี่จึงเป็นตัวอย่างที่บางอย่าง สูดดมเข้าไปแล้วอารมณ์ดี ซึ่งน้ำมันหอมระเหยหรืออโรมาเทอราปีเนี่ยก็จะมีแบ่งเป็นกลุ่ม
ซึ่งกลุ่มที่ 1 ก็คือ กลิ่นสงบ เมื่อสูดดมแล้วจะทำให้รู้สึกสงบ ตัวอย่างเช่นกลิ่นฟรังกินเซ็นท์ ที่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในโบสถ์ทำให้คนที่เข้าไปในโบสถ์เมื่อสูดดมแล้วรู้สึกดีและสงบนั่นก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง ในการใช้กลิ่นเพื่อบำบัดดูอีกตัวอย่างหนึ่งเช่นพวกไม้สน ที่นำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย
กลุ่มที่ 2 ก็จะเป็นกลิ่นที่เป็นตัวกระตุ้น ทำให้กระปรี้กระเปร่าสดชื่นอะไรทั้งหลายทั้งปวง กลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่มที่ทำให้มีพลังจะทำให้รู้สึกเร่าร้อนขึ้นมาทันที หรือสงบเยือกเย็นกลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่สำคัญอีกกลุ่มนึง ที่นิยมใช้
กลุ่มที่ 3 จะเป็นพวกส้มหรือผลไม้ โดยเปลือกผลส้มจะทำให้รู้สึกสดชื่นและสามารถฆ่าเชื้อได้ ถ้าหากในห้องมีกลิ่นอับก็สามารถใช้ สเปรย์ผิวส้มฉีดเข้าไปให้ทั่วก็ทำให้สดชื่นและสามารถฆ่าเชื้อได้
กลุ่มที่ 2 ก็จะเป็นกลิ่นที่เป็นตัวกระตุ้น ทำให้กระปรี้กระเปร่าสดชื่นอะไรทั้งหลายทั้งปวง กลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่มที่ทำให้มีพลังจะทำให้รู้สึกเร่าร้อนขึ้นมาทันที หรือสงบเยือกเย็นกลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มที่สำคัญอีกกลุ่มนึง ที่นิยมใช้
กลุ่มที่ 3 จะเป็นพวกส้มหรือผลไม้ โดยเปลือกผลส้มจะทำให้รู้สึกสดชื่นและสามารถฆ่าเชื้อได้ ถ้าหากในห้องมีกลิ่นอับก็สามารถใช้ สเปรย์ผิวส้มฉีดเข้าไปให้ทั่วก็ทำให้สดชื่นและสามารถฆ่าเชื้อได้
โดยกลุ่มทั้งสามนี้ก็สามารถนำมาผสมกันได้เพื่อที่จะให้สรรพคุณพัฒนาขึ้นไปได้อีกโดยการผสมพืชหรือสมุนไพรที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือใกล้เคียงกันก็จะทำให้สรรพคุณดีเพิ่มขึ้นไปอีก หรือที่เรียกภาษาอังกฤษว่า blending
ซึ่งสเปรย์ที่พูดถึงคือกลิ่นจากธรรมชาติหรือน้ำมันหอมระเหยที่สกัดออกมาจากพืชและสมุนไพรไม่ใช่กลิ่นจากน้ำหอม perfume มันต่างกัน เพราะ perfume คือน้ำหอมที่มาจากสารเคมีในการแต่งกลิ่นและเป็นเพียงแค่กลิ่นเท่านั้นไม่ได้มีสรรพคุณอะไรเลยแต่น้ำมันหอมระเหยที่มาจากสมุนไพรและพืช มีสรรพคุณที่ช่วยในการบำบัดการรักษาโรคซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหย เส้น perfume กลิ่นดอกกุหลาบเปรียบเทียบกับน้ำมันหอมระเหยหรือดอกกุหลาบ ที่มาจากต้นของมันจริงๆก็มีสรรพคุณต่างกันตัวอย่างเช่นกลิ่นของดอกกุหลาบจะทำให้มีอารมเซ็กซี่จึงมักนิยมวางเรียงไว้บนเตียงในวันแต่งงานซึ่งแสดงถึงความรักหรือแม้กระทั่งดอกมะลิของไทยเองก็เป็นกลิ่นที่สบายและทำให้รู้สึกผ่อนคลายที่เรามักจะเจอในสปา หรือที่นิยมที่สุดก็คือน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ซึ่งกลิ่นนี้จะทำให้ผ่อนคลายถ้าหากใครนอนไม่หลับก็ให้นำดอกลาเวนเดอร์วางไว้ที่หัวเตียงหรือใกล้เคียงก็ทำให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น
จึงเป็นที่มาของการใช้น้ำมันหอมระเหยในการรักษาโรคหรือบำบัด น้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรบางอย่างทำให้คลายกล้ามเนื้อได้ เช่นน้ำมันไพล ที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อเราจึงมักเห็นคนนิยมใส่น้ำมันไพลเข้าไปในที่ประคบเพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งการใช้ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยเนี่ยเขาจะเห็นได้มากสุดก็คือที่สปา เพื่อเพิ่มคุณค่าและเพิ่มมูลค่าเพราะว่ามันมีกลิ่นออกมาและมีประโยชน์หรือแม้กระทั่งสบู่แชมพูก็จะมีการผสมของน้ำมันหอมระเหยมากกว่าการใช้น้ำหอมแบบที่มีเพราะว่ามีอันตรายและเป็นสิ่งแปลกปลอม
นอกจากจะอยู่ในอุตสาหกรรมสุขภาพแล้วน้ำมันหอมระเหยที่มาจากสมุนไพรก็ยังไปอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารด้วยเช่นกันโดยที่นิยมมากที่สุดเลยก็คือเครื่องดื่ม เพราะว่ายุคสมัยนี้มีน้ำที่ใช้กลิ่นเทียมเยอะมากด้วยกลิ่นเทียมพวกนี้จะมีกลิ่นแรงและรสชาติที่จัดจ้านเกินไปทำให้ในยุคสมัยนี้เริ่มมีการนิยมใช้น้ำมันหอมระเหยมาผสมมากขึ้น
ซึ่งเราก็เห็นได้ในชีวิตประจำวันเช่นในวัดก็มีการใช้ดอกมะลิผสมเข้าไปในน้ำอบหรืออุตสาหกรรมการทำขนมหวานก็มีการใช้แป้งผสมกับสมุนไพรต่างๆเพื่อให้แป้งดูดกลิ่นหอมนั้นขึ้นมา
และในปัจจุบันเครื่องที่ทำการสกัดน้ำมันหอมระเหยออกมาจากสมุนไพรก็พัฒนาไปไกลมีคุณภาพที่ดีสามารถสกัดออกมาได้ในปริมาณที่มากขึ้นมากขึ้นทำให้น้ำมันหอมระเหยที่มาจากสมุนไพรถูกมองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
แล้วนอกจากจะใช้ในอุตสาหกรรมสปาอาหารแล้วก็ยังใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์อีกด้วยเพราะว่าน้ำมันหอมระเหยที่มาจากสมุนไพรนั้นมีฤทธิ์ต่างๆที่สามารถช่วยฆ่าเชื้อและมีผลต่อสมองได้ ดังนั้นก็ไม่แปลกชื่อสมุนไพรจะมีส่วนแบ่งในตลาดโลกมากถึง 8 เปอเซ็น
อย่างไรก็ตามการสกัดน้ำมันหอมระเหยออกจากพืชสมุนไพรก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้เส้นการใช้น้ำมันหอมระเหยนั้นก็ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมก็คือ 1-2เปอร์เซ็นต์ซึ่งจะไม่เป็นผลต่อร่างกายและไม่ระคายเคืองถ้าหากใช้มากกว่านี้ก็จะเกิดการระคายเคืองได้แต่เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยก็จะพัฒนาไปได้ไกลอีกมากขึ้นเรื่อยๆและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น